คำถาม
ปกติใส่คอนแทคเลนส์อยู่ค่ะ แต่พอดีช่วงนี้ตาอักเสบ คุณหมอให้งดใส่ เลยไปตัดแว่นมาใหม่ ค่าสายตาของเราอยู่ที่
- ตาขวา : -2.75 ไดออปเตอร์ (ลบสองร้อยเจ็ดสิบห้า)
- ตาซ้าย : -3.25 ไดออปเตอร์ (ลบสามร้อยยี่สิบห้า)
ตอนไปตัดแว่น พนักงานที่ร้านแนะนำว่าให้เลือกเลนส์ที่มีค่าสายตามากกว่าค่าสายตาเรา 1 step ได้ค่าสายตาดังนี้
- ตาขวา : -3.00 ไดออปเตอร์ (ลบสามร้อย)
- ตาซ้าย : -3.50 ไดออปเตอร์ (ลบสามร้อยห้าสิบ)
ตอนลองแว่นสายตาที่ -3.00 กับ -3.50 ของทางร้านก่อนที่จะตัดแว่น ก็ไม่มีปัญหานะคะ แต่พอใส่แว่นที่ตัดเสร็จแล้วออกมา แล้วปรากฏว่ามีปัญหาพื้นลอย พอมองวัตถุที่เป็นพื้นราบแบบเส้นตรง เช่น ประตูห้าง ตู้เสื้อผ้า แล้วจะเห็นว่ามันโค้งอะค่ะ คือ ตรงกลางของวัตถุมันจะดูป่องกว้างออกมา แต่ด้านข้างมันจะเว้าแคบลงไป ทำให้เห็นวัตถุที่จริงๆแล้วควรจะราบเป็นเส้นตรง เป็นวัตถุโค้งๆหน่อยอะค่ะ ทำให้มองภาพแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติเลย แบบนี้เราจะแก้ไขยังไงได้บ้าง หรือไปให้ทางร้านแว่นปรับแต่งค่าอะไรได้บ้างคะ
ตอบ เท่าที่อ่านมา พอจะสรุปสาเหตุและการแก้ไขได้ดังนี้ครับ
- สาเหตุที่เห็นภาพตรงกลางป่องออก ข้างๆแคบลง (เหมือนรูปถังไม้โบราณที่เรียกว่า Barrel) เกิดเนื่องจาก Distortion (ความบิดเบือน) ของแสงที่หักเหผ่านเลนส์เว้า (สายตาสั้นใส่เลนส์เว้า ยาวใส่เลนส์นูน ซึ่งเลนส์นูนจะทำให้เห็นความบิดเบือนเป็นรูปหมอนปักเข็ม) ซึ่งเลนส์เว้าทุกอันก่อให้เกิดปัญหานี้ ปัญหาจะมีมากขึ้นเมื่อเลนส์มีค่าสายตามากขึ้น ทำให้ผู้ใส่สังเกตุเห็นความบิดเบี้ยวนี้ได้ชัดเจน ถ้าแว่นอันใหม่มีค่าสายตาต่างจากอันเดิมมาก หรือเปลี่ยนการใช้คอนแทคเลนส์มาเป็นแว่นหรือตรงข้าม (อาจลองสังเกตด้วยการปิดตาทีละข้าง ตาแต่ละข้างก็จะยังเห็นภาพมีลักษณะเหมือนถังไม้โบราณอยู่ครับ)
◦ การแก้ไข ถ้าพอทนไหว ไม่ต้องแก้ไขครับ เนื่องจากถ้าใส่ไปสักพัก สมองจะสามารถปรับตัวเข้ากับภาพที่เห็นจากแว่นได้ (เนื่องจากสมองเรารู้อยู่แล้วว่าคาน เสา ที่เราเห็นว่ามันโค้ง ที่จริงแล้วมันตรง สมองเราสามารถเรียนรู้และสุดท้ายสมองเราจะรับรู้ว่ามันตรง ภาพที่เราเห็นไม่ได้เปลี่ยนครับ แต่สมองมีการเรียนรู้กับภาพที่มองเห็น ดังนั้นเมื่อใส่ไปสักพัก คานหรือขอบประตูก็จะตรงเองครับ สมองเป็นอวัยวะที่ซับซ้อน หลายๆครั้งสมองแปลความหมายและปรุงแต่งสิ่งที่เราเห็น ทำให้เราเห็นสิ่งที่ไม่เป็นความจริงหรือภาพลวงตา Optical illusion ได้ครับ)
ลิ้งค์เพิ่มเติม Optical Illusion
◦ ถ้าทนไม่ไหว ต้องการให้ดีขึ้นทันที ทำได้โดยเปลี่ยนเลนส์ไปใช้เลนส์แอสเฟียริก (ลองบอกร้านแว่นดูครับ ร้านไหนทำหน้างงหรือไม่รู้จักก็เดินออกได้เลย) เลนส์ลักษณะนี้จะลด Distortion ให้น้อยลงได้ แต่ลดได้ไม่หมด(แอสเฟียริกของแต่ละบริษัทก็ไม่เหมือนกันครับ ปกติแอสเฟียริกจะทำเพื่อแก้ไข Coma Aberration แต่จากการทดสอบก็สามารถทำให้เห็นภาพที่มี Distortion น้อยลงด้วยครับ)
- ที่บอกว่าลองเบอร์เลนส์นี้แล้วที่ร้านแว่น ไม่มีปัญหา แต่มามีปัญหาตอนตัดแว่นเข้ากรอบแล้ว อาจเนื่องจากสาเหตุดังนี้ครับ
◦ หน้าแว่นทดลองใส่มักจะแบน (คือหน้าแว่นไม่มีความโค้งเลย) แต่แว่นตาที่ตัดมีความโค้งบ้าง (ถ้าหน้าแว่นตาที่ตัดแบนเหมือนกันข้อนี้ก็ข้ามไปครับ)
รูปการวัดองศาหน้าแว่น Face Form Angle แว่นที่หน้าแบนจะมีองศาหน้าแว่นเป็นศูนย์ ส่วนแว่นที่ยิ่งมีหน้าโค้งมากเช่นแว่นทรงสปอร์ตจะมีองศาหน้าแว่นมาก
เปรียบเทียบหน้าแว่นของ กรอบแว่นสายตาหน้าแบน (รูปบน) และกรอบแว่นกันแดดทรงสปอร์ตที่หน้าแว่นโค้งมาก (รูปล่าง)
◦ เลนส์ที่ร้านแว่นตาให้ลองใส่ ไม่เหมือนเลนส์ที่ตัดทำแว่น เนื่องจากเลนส์ทดลองส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์เว้าชนิด Biconcave คือ เว้าทั้งสองด้าน แต่เลนส์แว่นตาจริงจะเป็นแบบ Meniscus คือโค้งนูนด้านหนึ่งและเว้าอีกด้านหนึ่ง เลนส์ทั้งสองชนิดนี้มี Base curve (โค้งด้านหน้า) ไม่เท่ากันก็จะทำให้มีความบิดเบือนต่างกันด้วยครับ
◦ สำหรับความบิดเบือนของแสง ภาพที่มองผ่านบริเวณกลางเลนส์จะมีความบิดเบือนน้อยกว่ามองผ่านริมๆเลนส์ครับ ดังนั้น เมื่อลองเลนส์ทดลองในร้านแว่นซึ่งขนาดเลนส์เล็กกว่าเลนส์แว่นตาจริง (ส่วนใหญ่เป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.5 เซนติเมตร) จะทำให้สังเกตเห็นความบิดเบือนน้อยกว่าการมองผ่านเลนส์แว่นตาจริงซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า(ขอบชนขอบเลนส์ด้านแนวนอนอาจใหญ่ถึง 5-6 เซนติเมตร)
◦ บางครั้งถ้าความบิดเบือนไม่มากนัก การได้ทดลองใส่แว่นอันใหม่ที่ร้านอาจไม่ทันสังเกตเห็นความบิดเบือน แต่เมื่อมาทำงานในชีวิตประจำวัน กับมุมมองเดิม สังเกตว่าการเห็นขอบโต๊ะ หนังสือ คานที่บ้าน เปลี่ยนไป จึงสังเกตเห็นว่ามีความบิดเบือนเกิดขึ้นครับ
- อีกสาเหตุที่ทำให้เห็นภาพบิดเบี้ยวลักษณะนี้คือ การที่เลนส์แว่นตามีค่าสายตาเอียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตาเอียงที่องศาเอียงต่างจาก 90 หรือ 180 องศามาก อาจทำให้เห็นภาพบิดเบี้ยว เห็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูได้ (แต่ในกรณีนี้ เลนส์แว่นตาของเจ้าของคำถามไม่มีค่าสายตาเอียง ประเด็นนี้เลยตัดไป)
สรุป คือ รอปรับตัวประมาณสองอาทิตย์ ถ้ารอไม่ไหวก็เปลี่ยนไปใช้เลนส์แอสเฟียริกครับ
หมายเหตุ : คำแนะนำนี้ ติ๊ต่างว่า ค่าสายตาที่ให้เป็นค่าสายตาที่ถูกต้องแล้วเท่านั้นครับ ซึ่งในกรณีนี้ถ้าค่าสายตาของคอนแทคเลนส์ที่ใช้อยู่เดิมถูกต้อง ค่าสายตาตัดแว่นก็ควรจะเท่ากับค่าของคอนแทคเลนส์ ไม่ควรจะต้องเพิ่มขึ้น 1 step (นอกเสียจากว่ามีเหตุผลอื่นๆรองรับ เช่นลูกค้ามีอาการ Convergence Insufficiency และยังมีกำลังการเพ่งเหลืออยู่มากเป็นต้น)
หวังว่าคำตอบจะช่วยอะไรได้บ้างนะครับ
ดร.เบิร์ด