คนไข้หญิงอายุ 55 ปี ตาแห้งรุนแรงจากโรค Sjogren’s Syndrome ทำให้ต่อมน้ำตาถูกทำลาย (07252)

คนไข้หญิงอายุ 55 ปี ตาแห้งรุนแรงจากโรค Sjogren’s Syndrome ทำให้ต่อมน้ำตาถูกทำลาย (07252)

ประวัติ

คนไข้หญิงไทย อายุ 55 ปี เป็นโรค Sjogren’s Syndrome ซึ่งเป็นโรคทางระบบภูมิคุ้มกันแบบเรื้อรัง อาการอย่างหนึ่งที่พบบ่อยของโรคนี้ คือ อาการตาแห้งมาก (Severe Dry Eye) เกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายตนเองทำงานผิดปกติ คิดว่าต่อมน้ำตาเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงเข้าไปทำลาย ทำให้ตาแห้งมากเนื่องจากต่อมน้ำตาเหลือน้อยจนแทบไม่มีการผลิตน้ำตา

ผู้ป่วยบอกว่ามีอาการตาแห้งมากมานาน 6-7 ปีแล้ว ปกติต้องหยอดน้ำตาเทียมชั่วโมงละหลายๆครั้ง มีอาการแสบตา ระคายเคืองตา แพ้แสง ไวต่อลม ตามัว มีความลำบากในการดำเนินชีวิต จึงต้องการมารักษาอาหารตาแห้ง

จากการตรวจตา พบว่า คนไข้ตาแห้งมาก ร่วมกับมีปัญหากระจกตาถลอก มี Filamentary Keratitis (กระจกตาถลอก และลอกออกมาเป็นเส้น) เนื่องจากขณะกระพริบตาแทบไม่มีน้ำตาหล่อลื่นระหว่างเปลือกตาและกระจกตา ทำให้เปลือกตาถูกระจกตาถลอก แพ้แสง ลืมตาแทบไม่ขึ้น ดังรูป

ภาพถ่ายจาก Slit lamp จะสังเกตเห็นกระจกตาลอกเป็นเส้นขุยๆ

  • ตาขวา

  • ตาซ้าย

จากอาการดังกล่าว ดร.เบิร์ด แนะนำให้ใช้  Scleral lens เนื่องจากมีข้อดี คือ เลนส์ที่สามารถลดอาการตาแห้งได้ เนื่องจากเลนส์จะเก็บน้ำไว้ใต้เลนส์เพื่อหล่อเลี้ยงกระจกตาตลอดเวลา นอกจากนั้นเลนส์ยังช่วยลดความเจ็บปวดเนื่องจากเมื่อกระพริบตาเปลือกตาจะถูผิวของเลนส์แทนที่จะถูผิวของกระจกตา

หลังจากคนไข้ได้รับเลนส์และใส่เลนส์ได้สองสัปดาห์ ตรวจตามผล พบว่า อาการเคืองตาและตาแห้งลดลง จากที่เคยต้องหยอดน้ำตาเทียมวันละ 5 หลอด เหลือเพียงวันละหนึ่งหลอดเท่านั้น ตาคนไข้สามารถสู้แดดสู้ลมได้มากขึ้น และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสบายตา ไม่ต้องทนทรมานกับอาการตาแห้งอีกต่อไป

ภาพแสงสะท้อน Placido Disc บนกระจกตาผู้ป่วย จากเครื่องถ่ายแผนที่กระจกตา (Corneal Topography) แสดงถึงลักษณะผิวกระจกตาที่มีความไม่เรียบเนื่องจาก Filamentary Keratitis

ภาพถ่ายจาก Slit lamp ของตาคนไข้หลังใส่  Scleral lens ซึ่งทำให้ตาแห้งลดลง สู้ลมสู้แสงได้มากขึ้น

  • ตาขวา

  • ตาซ้าย

 

แชร์ไปที่ :

บทความอื่นๆ

ติดต่อนัดหมาย