คนไข้อายุ 8 ขวบ เคยผ่าตาเขมาก่อน (07268)

คนไข้อายุ 8 ขวบ เคยผ่าตาเขมาก่อน (07268)

มีนาคม 30, 2020
5:25 am

ประวัติ

คนไข้อายุ 8 ขวบ เคยผ่าตาเขมาก่อน

Examination

VA ตาเปล่า

ตาขวา 20/100-2 @6 เมตร
ตาซ้าย 20/100 @5 เมตร

ค่าสายตาที่วัดได้ก่อนใช้เลนส์ (Subjective Refraction)

ตาขวา : -1.50-1.00×180 VA 20/20-1
ตาซ้าย : -3.00 VA 20/20-1

หลังจากใส่โอเคเลนส์นาน 1 เดือน พบว่าคนไข้มีการมองเห็น 20/20-2 ที่ระยะ 6 เมตร ซึ่งถือว่ามีการมองเห็นที่ดีขึ้นมาก

ภายหลังจากนั้นอีก 1 เดือน คนไข้บอกว่าใส่เลนส์แล้วมีอาการเคืองตา ดร.เบิร์ด จึงตรวจตาด้วยเครื่องมือ Slit lamp พบว่ามีอาการภูมิแพ้ และเมื่อย้อมสีกระจกตาพบว่าตาซ้ายมีการติดสีมากกว่าตาขวา นอกจากนี้ยังพบว่าคนไข้มีการกระพริบตาได้ไม่สนิทและมีรอยขนตาขูดบริเวณกระจกตาอีกด้วย

ภาพถ่ายแผนที่กระจกตา ก่อนใส่ OK lens ของตาขวา (ภาพซ้าย), ตาซ้าย (ภาพขวา)

ภาพถ่ายแผนที่กระจกตา ก่อนใส่ OK lens ของตาขวา (ภาพซ้าย), ตาซ้าย (ภาพขวา)

ภาพถ่าย Slit lamp

ตาขวา

ตาซ้าย

แชร์ไปที่ :

บทความอื่นๆ

คนไข้สายตาสั้นเยอะ มีสายตายาวตามวัย เลือกทำ Mono vision ด้วย RGP lens (06482)

ตัวอย่าง Case RGP lens, ตัวอย่างเคส

ประวัติ คุณตุ๊ก (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ใส่ RGP lens คู่เดิมมา 5 ปี โดยแก้ไขสายตาแบบ Monovision ซึ่งเป็นการแก้ไขสายตาให้มองไกลได้ข้างนึง ส่วนอีกข้างแก้ไขสายตาสำหรับมองใกล้ ทำให้ให้ไม่ต้องใส่แว่นตาสำหรับการมองใกล้ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้นกล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการโฟกัสระยะใกล้จะไม่ยืดหยุ่นเหมือนแต่ก่อน ทำให้แสงไม่ตกพอดีที่จอตา เกิดสายตายาวตามอายุ ซึ่งจะต้องแก้ด้วยการใส่แว่นเลนส์บวกเมื่ออ่านหนังสือหรือทำงานระยะใกล้ ภาพแสดง Monovision ที่แก้ไขค่าสายตามองใกล้ในตาขวา และแก้ไขค่าสายตามองไกลในตาซ้าย ที่มา

คนไข้ค่าสายตาเยอะใช้ RGP lens ต่อเนื่องมานานกว่า 4 ปี (07179)

ตัวอย่าง Case RGP lens, ตัวอย่างเคส

ประวัติ คุณนัท (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ใส่ RGP lens คู่เดิมมา 4 ปี ใส่เลนส์วันละ 14 ชั่วโมง โดยไม่มีปัญหาเคืองตา แต่พบว่าเมื่อใส่เลนส์แล้วมองไม่ค่อยชัด จึงมาตรวจตา กำลังเลนส์ RGP คู่เดิม (Power) : -13.00 D ทั้งสองข้าง ค่าสายตาที่วัดทับเลนส์คู่เดิม ตาขวา : +1.25 -0.75 x 45 VA 20/32 ตาซ้าย : Plano – 0.50 x 100 VA 20/32-1 ภาพถ่าย Slit lamp ขณะใส่เลนส์คู่เดิม ซึ่งมีคราบโปรตีนสะสมอยู่บนเลนส์ ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้การมองเห็นเริ่มไม่ชัด เมื่อสอบถามถึงการทำความสะอาดเลนส์เบื้องต้นพ

ทำ RGP lens หาย 1 ข้าง (07311)

ตัวอย่าง Case RGP lens, ตัวอย่างเคส

ประวัติ คุณพิมพ์ (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ทำ RGP lens ข้างซ้ายแตก ไม่ได้ใส่เลนส์มา 10 วัน จึงมาวัดสายตาเพื่อตัดเลนส์ข้างซ้าย ซึ่งเลนส์เดิมมีพาวเวอร์ทั้ง 2 ข้างเท่ากัน คือ -5.50 D ค่าสายตาที่วัดได้ (Subjective refraction) ตาขวา : -5.50 D ตาซ้าย : -5.50 D จากนั้นให้คุณพิมพ์ลองใส่เลนส์ทดลองที่ตาซ้าย แล้วทำการวัดค่าสายทับเลนส์ (Over-refraction) ได้ค่าดังต่อไปนี้ ตาขวา : +0.25 -0.50 x 85 VA 20/20 ตาซ้าย : -4.25 -1.50 x 160 VA 20/20 หลังจากวัดสายตาอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว คุณพิมพ์ได้ตัดสินใจตัดเลนส์ RG

ชายชาวต่างชาติอายุ 47 ปี ย้ายมาอยู่ไทย ใช้ RGP lens มาตั้งแต่อายุ 14 ปี และต้องการใช้ RGP Lens ต่อ (07204)

ตัวอย่าง Case RGP lens, ตัวอย่างเคส

ประวัติ ชายชาวอาร์เจนติน่า อายุ 47 ปี ใช้ RGP lens มาตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยการใช้เลนส์ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมา ไม่มีปัญหากับการใช้เลนส์แต่อย่างใด เมื่อย้ายมาอยู่ประเทศไทยแล้ว ยังคงมีความต้องการใช้ RGP lens ต่อ จึงมาตรวจกับหมอเบิร์ดเพื่อสั่งตัดเลนส์คู่ใหม่ พาวเวอร์เลนส์ RGP คู่เดิม ตาขวา : +5.00 D ตาซ้าย : +5.37 D ค่าสายตาที่วัดทับเลนส์คู่เดิม (Over-refraction) ตาขวา : -1.00 -0.75 x 45 VA 20/20-2 ตาซ้าย : Plano – 0.25 x 100 VA 20/32-1 พาวเวอร์เลนส์ RGP คู่ใหม่ และพารามิเตอร์ต่างๆ

สายตาสั้นมาก ใส่ RGP lens มา 2 ปี กลับมาตัดเลนส์ใหม่เพราะค่าสายตาเปลี่ยน (07330)

ตัวอย่าง Case RGP lens, ตัวอย่างเคส

ประวัติ คุณชิน (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ใส่ RGP lens คู่เดิมที่ฟิตติ้งกับหมอเบิร์ดมา 2 ปี ปัจจุบันใส่เลนส์แล้วรู้สึกว่ามองไกลเริ่มไม่ชัด และมองใกล้แย่กว่ามองไกล จึงเข้ามาเช็คสายตา เพื่อสั่งตัดเลนส์คู่ใหม่ กำลังเลนส์ RGP คู่เดิม (Power) ตาขวา : -10.75 D ตาซ้าย : -10.25 D ค่าสายตาที่วัดทับเลนส์คู่เดิม (Over-reefraction) ตาขวา : -8.75 -1.00 x 90 VA 20/30+3 ตาซ้าย : -7.50 -1.75 x 90 VA 20/20-1 ค่าสายตาที่วัดได้ (Subjective refraction) ตาขวา : -13.00 -0.75 x 35 ตาซ้าย : -11.50 พาวเวอร์เลนส์ RGP คู่ใ

ปวดตาเมื่อใช้คอมพิวเตอร์นานกว่า 1 ชั่วโมง CONVERGENCE EXCESS [AT011]

ตัวอย่าง Case แว่นตา Spectacles, ตัวอย่างเคส

คุณหฤทภัค (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มาที่ร้านหมอแว่นเนื่องจากเพื่อนอาจารย์ด้วยกันแนะนำมา คุณหฤทภัคมีปัญหากับการใช้สายตาโดยเมื่อใช้คอมพิวเตอร์นานกว่าครึ่งชั่วโมง จะเริ่มรู้สึกมีอาการไม่สบายตา ถ้าฝืนใช้ต่ออีกสักพักจะเกิดอาการตามัวและเมื่อยตา บางครั้งถึงขั้นปวดตา ต้องพักสายตาแล้วอาการจะดีขึ้น แต่เมื่อกลับมาทำคอมพิวเตอร์ใหม่อาการก็จะมาอีก คุณหฤทภัค มีแว่นสายตาเดิม มีค่าสายตาดังนี้ ตาขวา : +1.00 -0.75×175 D ตาซ้าย +1.25 -0.50×10 D มีสายตาเอียงเล็กน้อยทั้งสองข้าง และมักใส่แว่น