ประวัติ
คนไข้เพศหญิง อายุ 37 ปี อยากใส่คอนแทคเลนส์ มีสายตาสั้นและเอียงทั้งสองข้าง ก่อนหน้านี้ใช้คอนแทคเลนส์นิ่มสายตาเอียง แต่ใช้แล้วมีปัญหาตาแห้งและระคายเคืองตามาก ปัจจุบันเลยไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์
ผลการตรวจตา
- มีอาการตาแห้ง โดยตรวจ Tear break up time (TBUT) ได้ 5 วินาที
- มีต้อล้มทั้งสองข้าง
ค่าสายตาจริงที่วัดได้ทั้งสองข้าง (Subjective refraction)
- ตาขวา : -2.25-3.50×169 VA 20/25+1
- ตาซ้าย : -3.00-3.50×005 VA 20/30-1
จากการตรวจตาและซักประวัติเพิ่มเติม พบว่า คนไข้ยังมีอาการตาแห้งไม่มาก สามารถใช้เลนส์ได้ทั้งชนิด Bitoric Corneal RGP, Hybrid Lens และ Scleral Lens เมื่ออธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของเลนส์แต่ละชนิดและให้คนไข้ทดลองใส่เลนส์ดูแล้ว คนไข้ขอตัดทั้ง Scleral Lens และ Hybrid Lens
หลังจากที่เลนส์มา คนไข้ได้ลองใส่เลนส์ทั้งสองชนิด โดยเลนส์ทั้งคู่ให้ความชัดเจนดีมากพอๆกัน แต่พบว่า Hybrid Lens ให้ความสบายตามากกว่า เนื่องจากคนไข้มีต้อลม ทำให้ขอบของ Scleral Lens ที่แข็งไปกดต้อลม เกิดอาการระคายเคืองตามากกว่าการใช้ Hybrid Lens ที่มีขอบนิ่มกว่า
หมายเหตุ
- Scleral Lens ที่คนไข้ตัด เป็นรุ่นที่ใช้ระบบ Trial lens fitting ซึ่งส่วน Landing zone ที่วางอยู่บนตาขาว ไม่สามารถออกแบบให้นูนหนีต้อลมได้ ทำให้มีความระคายเคืองตาบ้างเวลาใช้งานนานๆ
- ปัจจุบัน ดร. เบิร์ด ได้ซื้อเครื่องสแกนผิวดวงตาสามมิติเครื่องแรกใน South East Asia ที่สามารถสแกนผิวดวงตาคลอบคลุมทั้งตาดำและตาขาว ขนาดใหญ่สุดถึง 18 มิลลิเมตร ทำให้สามารถนำข้อมูลผิวดวงตาที่ได้ไปออกแบบเลนส์ที่พอดีกับดวงตา โดยเฉพาะดวงตาที่มีส่วนนูนเว้าผิดปกติ เช่น ต้อลม ทำให้ Scleral Lens ที่ได้ไม่ไปกดต้อลม ทำให้ใส่เลนส์ได้สบายตามากขึ้น และลดปัญหาความระคายเคืองตาลงได้
ภาพถ่าย Slit lamp ดวงตาคนไข้ ที่มีต้อลมเล็กน้อยทั้งสองตา ทำให้ใส่ Hybrid Lens ได้สบายกว่า Scleral Lens ชนิด Trial Fitting
- ตาขวา
- ตาซ้าย