น้องทีมิ ลูกหมอเบิร์ด ใช้โอเคเลนส์คุมสายตาสั้นตั้งแต่อายุ 5 ขวบ

มีนาคม 10, 2020
11:11 am

ด.ช. วุฒิเวช พึงพิพัฒน์ น้องทีมิ ลูกชายคนเล็กของหมอเบิร์ด สายตาสั้นตั้งแต่อนุบาลสอง (อายุ 4 ขวบ) สั้น -1.25 D (สั้นร้อยยี่สิบห้า) ทั้งสองข้าง ครั้งแรกหมอเบิร์ดตัดแว่นให้ใส่เนื่องจากน้องยังสายตาสั้นไม่มาก ในปีต่อมาน้องทีมิอายุ 5 ขวบ 3 เดือน แว่นเดิมเริ่มไม่ชัด เมื่อวัดสายตาพบว่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้นเร็วมากเป็น -2.50 ทั้งสองข้าง หมอเบิร์ดเริ่มกังวลว่าสายตาน้องทีมิจะสั้นเพิ่มขึ้นเยอะอีกในปีหน้า จึงตัดสินใจให้น้องใส่โอเคเลนส์เพื่อควบคุมสายตาสั้น

วีดีโอน้องทีมิ ใส่โอเคเลนส์ตอนอายุ 5 ขวบ 3 เดือน

หลังจากน้องทีมิใส่โอเคเลนส์ ก็ไม่ต้องใช้แว่น สามารถมองเห็นได้ชัดเมื่อไปโรงเรียน แต่เนื่องจากน้องยังอายุน้อย บางวันถ้าอารมณ์ไม่ค่อยดีก็ไม่อยากใส่เลนส์ จึงใส่บ้างไม่ใส่บ้าง จนกระทั่งน้องทีมิอายุ 6 ขวบ 6 เดือน สายตาเริ่มสั้นมากขึ้นอีก เป็น -3.25 ทั้งสองตา หมอเบิร์ดเลยตัดโอเคเลนส์คู่ใหม่ให้น้องตามค่าสายตาที่เปลี่ยนไป

หลังจากได้เลนส์คู่ใหม่ น้องเริ่มใส่เลนส์สม่ำเสมอขึ้น เนื่องจากเมื่อสายตาเริ่มสั้นถึงระดับ -3.25 ไดออปเตอร์ จะเริ่มมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน คืนไหนไม่ได้ใส่เลนส์ วันต่อมาจะเริ่มมองเห็นไม่ชัด ทำให้น้องอยากใส่เลนส์ด้วยตนเอง ก่อนนอนถ้าไม่ลืมจะมาเรียกให้ใส่เลนส์ให้เสมอ

ปัจจุบัน น้องทีมิอายุ 9 ขวบ 1 เดือน ค่าสายตาสั้นล่าสุดวัดได้ ตาขวา -3.50 และตาซ้าย -3.75 ไดออปเตอร์ หมอเบิร์ดค่อนข้างพอใจเพราะว่าหลังจากที่น้องทีมิใส่เลนส์ได้อย่างต่อเนื่อง ค่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้นช้าลงอย่างเห็นได้ชัด คือ ในระยะเวลา 2 ปี 7 เดือน สายตาน้องทีมิเพิ่มขึ้นเพียง -0.25 ในตาขวา และเพิ่ม -0.50 ในตาซ้าย โดยน้องทีมิสามารถใส่และถอดเลนส์ได้ด้วยตนเองแล้ว ปัจจุบันน้องทีมิก็ยังใช้โอเคเลนส์อยู่แทบทุกวัน (มีนานๆจะลืมใส่ทีนึง)

วีดีโอ น้องทีมิ ใส่และถอดโอเคเลนส์ด้วยตนเอง

**** OK Lens นับเป็นการแก้ไขสายตาที่สามารถควบคุมสายตาสั้นได้ดี มีผลข้างเคียงน้อย หน่วยงานวิชาการด้านการควบคุมสายตาสั้นของอเมริกา (Americal Academy of Orthokeratology and Myopia Control) จึงแนะนำว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการควบคุมสายตาสั้นในเด็ก

**** OK Lens ได้รับการรับรองจาก US FDA มากว่า 16 ปีแล้ว ว่าสามารถใส่นอนได้อย่างปลอดภัย

**** การใช้โอเคเลนส์ในเด็ก ต้องได้รับการประเมินอย่างถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความพร้อมไม่เท่ากัน