งานเปิดตัวหลอดไฟ Philips LED (ATL 032)

งานเปิดตัวหลอดไฟ Philips LED (ATL 032)

หมอเบิร์ด ได้รับเชิญให้ไปงานเปิดตัวหลอดไฟ Philips LED วันที่ 20 กันยายน 2560 ณ ลานอีเดน ศูนย์การค้า Central World ครับ
ท่านทราบหรือไม่ว่า หลอดไฟ ก็มีแบบถนอมสายตานะ
ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ถนอมสายตาออกมามากมายให้เราได้เลือกใช้ ที่รู้จักกันดีเช่น เลนส์แว่นตาตัดแสงสีฟ้า หรือฟิล์มหน้าจอโทรศัพท์ที่ป้องกันแสงสีฟ้า เป็นต้น
และตอนนี้ก็มีหลอดไฟ LED ชนิดถนอมสายตา ออกมาแล้วนะครับ
ฟังแรกๆอาจจะงงๆว่า หลอดไฟมันจะช่วยถนอมสายตาได้อย่างไร หมอเบิร์ดจึงขออธิบายเพิ่มเติมให้เข้าใจง่ายดังนี้ครับ
ในปัจจุบัน เรานิยมใช้หลอดไฟ LED กันมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่ดีมากด้านประหยัดพลังงาน เพราะหลอด LED กินไฟน้อยกว่าหลอดใส้และหลอดฟลูออเรส
เซนต์(หลอดยาวๆที่ใช้ตามบ้าน) มากๆนั่นเอง แถมยังมีอายุการใช้งานนานอีกด้วย

หลอด LED ย่อมาจาก (Light Emitting Diode) ปล่อยแสงออกมาให้เราได้ ด้วยหลักการการส่งกระแสไฟฟ้า ผ่านสารกึ่งตัวนำ(Semiconductor) เพื่อให้สารกึ่งตัวนำปล่อยพลังงานแสงออกมา โดยพลังงานที่ปล่อยส่วนใหญ่เป็นพลังงานแสง และปล่อยความร้อนน้อย จึงทำให้ LED มีประสิทธิภาพมากนั่นเอง (เพราะไม่ต้องเสียพลังงานไฟฟ้าไปกับการสร้างความร้อนที่เราไม่ต้องการ)
หลอด LED ก็มีหลายชนิด หลายแบบให้เลือกใช้ โดยแต่ละรุ่นแต่ละชนิดก็มีความสามารถในการปล่อยแสงออกมาได้ไม่เหมือนกัน บาง
ชนิดให้แสงที่สบายตา แต่บางชนิดก็ให้แสงที่ไม่ปลอดภัยต่อดวงตา ดังนั้นจึงมีการกำหนดมาตรฐานของหลอดไฟ LED ที่นำมาใช้กับดวงตาคนได้อย่างปลอดภัย เช่นมาตรฐาน IEC 62471:2006 Photobiological safety of lamps and lamp systems เพื่อบอกผู้บริโภคว่า หลอด LED รุ่นใด ใช้แล้วเป็นมิตรต่อดวงตาและสุขภาพของเราครับ
ซึ่งหนึ่งในหลอดไฟที่ผ่านมาตรฐานนี้คือหลอดไฟ ฟิลิปส์ แอลอีดี (Philips LED)
อนึ่ง หลอดไฟ LED ที่ถนอมสายตา (เมื่อพูดเป็นภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย) ควรมีคุณสมบัติดังนี้
1 ปล่อยแสงความยาวคลื่นช่วงแสงสีฟ้าออกมาน้อย — เนื่องจากงานวิจัยพบว่า การได้รับแสงสีฟ้ามากเกินไป อาจทำให้นอนหลับยากขึ้น เนื่องจากแสงสีฟ้าส่งผลต่อการหลังสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการนอนหลับครับ ตรงนี้ผมคิดว่าเป็นประเด็นที่สำคัญเลยทีเดียว เพราะการนอนเป็นเรื่องใหญ่ และนับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด โดยในขณะหลับ ร่างกายของเรามีกิจกรรมต่างๆเกิดขึ้นมากมายเช่น การหลั่ง Growth hormone ที่ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการในเด็ก และยังช่วยในการะบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในผู้ใหญ่ เป็นต้น ดังนั้นถ้าเรานอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราได้มากเลยทีเดียว
2 ไม่สว่างเกินไปจนเกิดแสงจ้า(Glare) — เนื่องจากถ้าหลอดไฟมีความสว่างมากเกินไปจนเกิดแสงจ้า เมื่อเรามองหลอดไฟจะทำให้รู้สึกแสบตาหรือไม่สบายตาได้(คล้ายกับการมองหลอดไฟชนิดใส้ที่สว่างมากๆ ) ดังนั้นหลอดไฟที่ดี ต้องไม่ทำให้เกิดแสงจ้ารบกวนสายตา แต่ต้องให้ความสว่างได้ตามที่บอกข้างกล่องด้วย
3 ไม่สร้างแสงกระพริบ(Flicker) ที่ดวงตาหรือสมองของเราสามารถรับรู้ได้ — เนื่องจากแสงที่ออกจากหลอด LED เป็นแสงกระพริบด้วยความถี่สูงมากจนทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่กระพริบ โดยถ้าสมองเรารับรู้ว่ามีแสงกระพริบจะทำให้ตาและสมองของเราต้องทำงานหนักขึ้น เนื่องจากสมองและดวงตาของเราต้องพยายามปรับตามแสงสว่างที่เปลี่ยนไปนั่นเอง (แสงกระพริบคือแสงสว่างมากและสว่างน้อยสลับกัน ) นึกสภาพของแสงกระพริบที่เราอาจคุ้นเคยกันดีเช่น แสงกระพริบของหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่ใกล้จะขาด เป็นต้น
4 ให้แสงกระพริบ ในช่วงความถึ่ที่เหมาะสม เพื่อลดการเกิด Stroboscopic effect — โดย Stroboscopic effect จะทำให้การมองสิ่งที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็ว มีความผิดเพี้ยนไป(เช่น มองพัดลมที่หมุนอยู่ใต้ไฟที่กระพริบ จะทำให้เห็นพัดลมหมุนช้าหรือหยุดหมุน)
จะเห็นว่า การเลือกหลอดไฟ LED ถนอมสายตาที่ผ่านมาตรฐาน น่าจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ เพราะ ทำให้เรานอนได้ดีขึ้น ทำให้ดวงตาไม่ต้องทำงานหนักจากแสงกระพริบ ไม่ทำให้เกิดแสงจ้าที่รบกวนสายตา และเห็นวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วได้อย่างสมจริงมากขึ้นอีกด้วยครับ
หมายเหตุ : ช่วงนี้ ซื้อหลอด Philips LED นอกจากจะได้ความสบายตาแล้ว ยังได้ทำบุญด้วยนะ ถ้าซื้อ “แพคเพื่อน้อง”
โดยทุกๆเซตที่ซื้อภายใน 30 ธันวาคม 2560 จะแบ่งเงินไปช่วยเด็กนักเรียนที่ยากจนในชนบท ในโครงการ “แสงแห่งโอกาสและความห่วงใย” ผ่านทาง UNICEF ครับ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line : @drbirdcl

 

 

 

 

 

Phone : 091-935-4999

แชร์ไปที่ :

บทความอื่นๆ

ok-True-I-am-Dr-Bird
Play Video

ติดต่อนัดหมาย